เป็นโรคความดันสูงทาน “น้ำมันงาดำ” ได้มั้ย ?

ในการแพทย์แผนจีนนั้น มีการวิจัยค้นพบว่า หากตับและไต เกิดการทำงานที่ไม่เป็นปกติ ความดันโลหิตก็จะผิดปกติตามไปด้วย

งาดำที่มีสรรพคุณในการดูแลบำรุงหัวใจ รักษาตับและไตให้แข็งแรง ทำงานเป็นปกติได้ดีอีกด้วย ซึ่งการศึกษาเรื่องนี้ ยังค้นพบอีกด้วยว่า น้ำมันงาดำนั้น สามารถช่วยควบคุมความดันของกลุ่มผู้ป่วย ด้วยโรคความดันโลหิตสูง ให้เป็นปกติได้ ด้วยเหตุที่น้ำมันงาดำสกัดเย็นนั้นมีสารประกอบสำคัญอยู่ 5 ชนิดที่ช่วยควบคุมโรคความดันโลหิตสูงให้เป็นปกติได้

สารสำคัญชนิดแรกนี้ คือ โอเมก้า 3-6-9 ที่มีอยู่น้ำมันงาดำสกัดเย็น สารตัวนี้จะสามารถช่วยดูแล ซ่อมแซมเส้นเลือดและหัวใจในร่างกายเรา ส่วนสารตัวต่อไปก็คือ สารเซซามินที่มีเฉพาะในน้ำมันงาดำนั้น ก็จะช่วยบำรุงหัวใจและไต ทำให้การสูบฉีดเลือดดำเนินไปอย่างปกติ

โอเมก้า 3-6-9 นั้นมีประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือด ในน้ำมันงาดำนั้นมีกรดไลโนเลอิกและโอเมก้า 3-6-9 ที่มีความสมดุลพอดี ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมบำรุงและล้างทำความสะอาดหลอดเลือด และรวมถึงระบบการทำงานของหัวใจ ทำให้การไหลเวียนของเลือดและอวัยวะที่เกี่ยวข้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ติดขัด

น้ำมันงาดำสกัดเย็นนั้นยังมีสารสำคัญเฉพาะตัวที่ไม่พบในพืชอื่นๆ ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นของงาดำ อย่างเช่น เซซามอล และ ดีเซซามิน ที่มีหน้าที่ฟื้นฟูเซลล์ต่างๆของร่างกายเรา และเบต้าซิทโทสเตอรอล ยังช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดและหัวใจอีกด้วย

แมกนีเซียมและสังกะสี ที่มีอยู่ในน้ำมันงาดำสกัดเย็น ก็เป็นสารสำคัญ ที่จะช่วยคบคุมให้การเต้นของหัวใจนั้นเป็นปกติ และยังช่วยลดความดันด้วย ส่วนวิตามินอีในน้ำมันงาดำสกัดเย็นนั้น จะเป็นสารที่จะช่วยเข้าไปล้างชำระหลอดเลือดของเราให้สะอาด เพื่อลดการอุดตันในเส้นเลือด และตัวไขมันชนิดดี หรือ HDL ที่ได้จากการกินน้ำมันงาดำ ก็จะไปช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเส้นเลือดของเรา ทำให้ลดการอุดตันของเส้นเลือดและหัวใจ

โรคความดันสูงนี้ สามารถดูแลรักษา และควบคุมได้ หากเรานั้นรู้จักวิธีที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น จังหวะการเต้นและการทำงานของหัวใจและระบบทำงานของไต จะดำเนินได้ไปอย่างปกติ

ดังนั้น การรับประทานน้ำมันงาดำสกัดเย็นเป็นประจำ จะสามารถช่วยให้การควบคุมแรงดันของโลหิตเป็นไปได้อย่างปกติ ทั้งผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและความดันโลหิตต่ำ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นหลอดเลือดหัวใจตีบและอุดตัน ควรรับประทานน้ำมันงาดำสกัดเย็นในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงต่อโรคดังกล่าว

    ตะกร้าสินค้า