สารเซซามิน คืออะไร? น้ำมัน งา บริสุทธิ์ สกัด เย็น เซซามิน งาดำ

ในเมล็ดงาดำเม็ดเล็กๆนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นในการดำรงชีวิตของเราอยู่มากมาย ซึ่งทำให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างไม่ขาดสารอาหารเลยทีเดียว สารอาหารที่มีอยู่ในเมล็ดงาดำได้แก่

  • งาดำนั้นมีโปรตีนอยู่สูง มีประกอบอยู่ถึง 16 เปอร์เซ็นต์ของสารอาหารองค์รวม และตัวโปรตีนในงาดำนั้นก็ย่อยง่ายและถูกแปลงเป็นรูปกรดอะมิโนที่ร่างกายเราสามารถนำไปใช้ได้ดีอย่างครบถ้วน
  • มีกากใยสูง ซึ่งจำเป็นในการส่งเสริมการขับถ่ายและขจัดสารพิษ การรับประทานอาหารกากใยสูงเป็นประจำยังส่งเสริมการย่อยและป้องกันโรคที่เกิดจากสารพิษ หรือมีของเสียตกค้าง เช่น มะเร็งลำไส้ ได้ด้วย
  • คาร์โบไฮเดรตชนิดดี ซึ่งการที่ได้รับประทานคาร์โบไฮเดรตชนิดดีเข้าสู่ร่างกายเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลเพื่อเป็นพลังงานให้แก่ร่างกายเราจากการย่อยคาร์โบไฮเดรตนั้น ถ้าการย่อยเป็นน้ำตาลเร็วเกินไป ตับอ่อนจะทำงานหนัก และสารอินซูลิน (ฮอร์โมนที่ควบคุมน้ำตาล) จะทำให้ระบบอื่นๆ รวน โดยเฉพาะหลั่งมากผิดปกติ
  • วิตามิน Bรวมสูง โดยเฉพาะวิตามิน B6 ดังที่ทราบทั่วไปว่า วิตามิน B เป็นกลุ่มสารอาหารที่บำรุงและปกป้องสมองและรวมถึงระบบประสาทที่ ทำให้ทำงานได้อย่างปกติ และช่วยชะลอความเสื่อมของระบบด้วย
  • สารอาหารโอเมก้า ในน้ำมันทุกชนิดล้วนมีสารโอเมก้า ไม่ว่าจากพืชหรือสัตว์ แต่ความสมดุลของโอเมก้านั้นจะมีไม่เท่ากัน น้ำมันงาดำมีความสมดุลของโอเมก้า 3, 6 และ9 ที่เป็นประโยชน์กับระบบสมองและหัวใจของเราอยู่สูง และยังช่วยส่งเสริมการเพิ่มไขมันตัวดีให้กับร่างกายของเราอีกด้วย
  • สารอาหารจำเป็นอื่นๆ ที่มีในงาดำ คือแคลเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานีส, เหล็ก, ทองแดง, แมกนีเซียม, ซิ้งค์, และไทรนิน
  • เป็นแหล่งสำคัญของทริปโทแพน ที่พวกเรารู้จักดีในนามว่า วิตามิน E นั่นเอง ซึ่งมีส่วนช่วยในระบบฮอร์โมน, บำรุงผมและผิวของเราให้อ่อนเยาว์นุ่มนวลอยู่เสมอ, ปกป้องและช่วยขับสารพิษ, ป้องกันและรักษาโรคที่เกี่ยวกับตา และลดโอกาสการข้นของเลือด ซึ่งลดโอกาสเกิดโรคหัวใจด้วย
  • มีสารเฉพาะตัว 3 ชนิดที่สำคัญและเป็นประโยชน์สูงกับร่างกายเรา คือ สารเซซามีน (Sesamin), สารเซซาโมลิน (Sesamolin หรือ D-Sesami) และ สารซาเซมอล (Sasemol) สารที่มีประโยชน์ทั้ง 3 ตัวนี้มีคุณสมบัติทางด้านการแพทย์เป็นอย่างสูง ซึ่งจะหาได้ในเฉพาะงาดำเท่านั้น ไม่สามารถหาได้ในแหล่งอื่นๆ  สารทั้ง 3 ตัวนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างดีมาก ซึ่งมากกว่าสารอื่นๆ หลายเท่า และยังช่วยในการป้องกันและส่งเสริมอวัยวะภายในโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหัวใจ, สมอง, ปอด, ตับ, และไตของเรา แถมยังดีต่อผิวพรรณและเส้นผมอีกด้วย

ปัจจุบันนี้มีการศึกษาวิจัยในเรื่องของงาดำที่เป็นกระแสที่มาแรงก็คือ ผลการวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันมะเร็ง และประสิทธิภาพในการชะลอและหยุดการแพร่ของเชื้อมะเร็ง ซึ่งก็เป็นความหวังอีกอย่างหนึ่งให้แก่ผู้ป่วยเหล่านี้ หากเราต้องการที่จะรับประทานงาดำเป็นอาหารเสริมนั้น หลักง่ายๆที่ควรทราบและจำให้ดีคือ ควรจะรับประทานน้ำมันงาดำที่อยู่รูปของน้ำมันเย็นสกัดด้วยความดันสูง และถ้าให้ดี ก็ควรบรรจุในแคปซูลซึ่งสามารถป้องกันแสงและอากาศไม่ให้ทำปฏิกิริยากับน้ำมัน เพราะสารที่มีในงาดำเหล่านี้มีสภาพคงตัวและละลายได้ดีในรูปของน้ำมัน การสกัดน้ำมันงาดำเพื่อนำไปใช้เป็นอาหารเสริมในรูปแบบที่ไม่เป็นธรรมชาตินั้นขัดกับหลักชีวะโมเลกุล อาจทำให้ได้สารที่ต้องทำงานด้วยกันไม่ครบถ้วน ดังนั้น การรับประทานงาดำให้ได้ประโยชน์นั้นจึงควรเป็นแบบน้ำมันงาดำสกัดเย็น หรือว่าในรูปเมล็ดงาบดละเอียดเท่านั้น ที่จะทำให้เราได้รับประโยชน์ทางด้านสุขภาพสูงสุดจากการบริโภคงาดำ

ที่มา: บทความคัดย่อจากหนังสือ ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย สวยด้วยน้ำมันงาดำ โดย ดร.พล ภูภาวัฒนากิจ แพทย์ศาสตร์ธรรมชาติบำบัดและแพทย์ศาสตร์ตะวันออก

 

    ตะกร้าสินค้า